เปรียบเทียบของพรีเมี่ยม vs ของแจกทั่วไป: ลงทุนกับอะไรดีกว่ากัน?
- psaowara1
- May 27
- 1 min read

ในยุคปัจจุบันนับได้ว่าเป็นยุคที่ธุรกิจต้องแข่งขันกันอย่างเข้มข้น การสร้างความประทับใจให้กับลูกค้ายังนับได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ การมอบ “ของพรีเมี่ยม” ให้กับลูกค้าคนสำคัญ จึงกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการตลาดที่หลายแบรนด์เลือกใช้ แต่ยังคงมีสิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ คนยังคงสงสัย นั่นก็คือ ธุรกิจควรลงทุนกับ “ของพรีเมี่ยม” หรือ “ของแจกทั่วไป” แบบไหนดีกว่ากัน? โดยในบทความนี้ ทางเราจะขอนำพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับของพรีเมี่ยมและของแจกทั่วไปให้มากยิ่งขึ้น ว่าทั้งของทั้งสองประเภทนี้แตกต่างกันอย่างไร พร้อมแนะนำแนวทางในการเลือกใช้ของพรีเมี่ยมและของแจกทั่วไป เพื่อให้เหมาะสมกับเป้าหมายของธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น ถ้าพร้อมแล้วไปดูข้อมูลเพิ่มเติมกันได้เลยค่ะ
มาทำความเข้าใจกันก่อน ของพรีเมี่ยม กับ ของแจกทั่วไป ที่จริงแล้วคืออะไรกันแน่?
- ของพรีเมี่ยม คืออะไร?
ของพรีเมี่ยม หรือ Corporate Gift คือ ของสมนาคุณใช้เพื่อสร้างความประทับใจในระยะยาว และเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าหรือคู่ค้า เช่น ในการเป็นของขวัญในโอกาสต่าง ๆ ที่ต้องการแสดงถึงความใส่ใจ หรือใช้ในกลยุทธ์การตลาดเพื่อกระตุ้นให้เกิดการจดจำแบรนด์ที่ยาวนาน ของพรีเมี่ยมมักจะมาพร้อมกับการออกแบบที่คำนึงถึงคุณภาพ และมักจะมีโลโก้หรือชื่อแบรนด์ที่ปรากฏอย่างชัดเจน เพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์มักจะถูกนำมาใช้ในโอกาสพิเศษต่าง ๆ อย่างเช่น การเปิดตัวสินค้าใหม่, ใช้เป็นของขวัญช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์หรือธุรกิจ, การขอบคุณลูกค้า VIP เป็นต้น
- ของแจกทั่วไป คืออะไร?
ของแจกทั่วไป คือ มักใช้เพื่อแจกจ่ายให้กับลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากในงานกิจกรรมหรือโอกาสพิเศษ เช่น การแจกที่งานอีเวนต์ หรือในร้านค้า โดยไม่เน้นคุณภาพหรือการออกแบบมากนัก มักจะเน้นที่การกระตุ้นความสนใจในระยะสั้น แต่ไม่คำนึงถึงความทนทานหรือการใช้งานในระยะยาว อย่างเช่น งานแสดงสินค้า, งานอีเวนต์, กิจกรรมส่งเสริมการขายในวงกว้าง โดยจุดเด่นของของแจกทั่วไป คือ ราคาประหยัด สามารถผลิตได้ในปริมาณมาก และสามารถกระจายไปยังกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากได้อีกด้วย
ของพรีเมี่ยม สื่อได้ถึงความใส่ใจ เน้นคุณภาพสินค้า และการตีแบรนด์ ช่วยยกระดับแบรนด์ได้อย่างมีชั้นเชิง
ของพรีเมี่ยม เปรียบเสมือนเป็นของสมนาคุณที่ได้ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี จะเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง อาจมีรายละเอียดในการผลิตที่พิถีพิถัน เช่น การพิมพ์โลโก้ที่มีเทคนิคพิเศษ เช่น การปั๊มฟอยล์ หรือการพิมพ์ UV ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า
ของแจกทั่วไป ช่วยกระจายแบรนด์ได้เร็วและช่วยประหยัดต้นทุน
ของแจกทั่วไป นับได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับกิจกรรมการตลาดที่จำเป็นจะต้องเน้นในเรื่องของปริมาณมาก ๆ เป็นสำคัญ มักจะใช้วัสดุที่มีราคาถูกหรือวัสดุที่สามารถผลิตได้ในจำนวนมาก โดยที่มักจะไม่คำนึงถึงความทนทานหรือการออกแบบที่ซับซ้อนเท่าไหร่ อย่างเช่น การแจกน้ำดื่มฟรีเมื่อเติมน้ำมัน การแจกสติ๊กเกอร์ในวันเด็ก หรือการแจกไอศกรีมหรือกระดาษทิชชู่เพื่อคลายร้อนหรือเมื่อออกบูธตามงานแสดงสินค้าต่าง ๆ , การจัดโปรโมชั่นบริเวณหน้าร้าน, กิจกรรมส่งเสริมการขายที่มีความต้องการอยากจะเข้าถึงกลุ่มคนเป็นจำนวนมาก โดยของแจกทั่วไปนั้น ต้นทุนต่อชิ้นราคามักจะถูกกว่าของพรีเมี่ยม
เรื่องที่หลาย ๆ คนมักจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับ ของพรีเมี่ยม
- ของพรีเมี่ยมต้องราคาสูงเสมอ
ในส่วนนี้เชื่อว่ายังคงมีหลาย ๆ คนที่มักจะเข้าใจผิด ว่าถ้าหากเป็นของพรีเมี่ยมต้องราคาสูงเสมอถึงจะถือว่าเป็นของพรีเมี่ยมได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น ถึงแม้ว่าของพรีเมี่ยมจะเป็นสิ่งของเครื่องใช้ที่มีคุณภาพ จัดได้ว่าเป็นสินค้าเกรดพรีเมี่ยมที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง มีความทนทาน แต่ของพรีเมี่ยมก็ยังคงเป็นสินค้าที่มีหลากหลายราคาด้วยกัน ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องเป็นสินค้าที่ราคาสูงเสมอไปเท่านั้น เพราะสิ่งสำคัญมักจะอยู่ที่คุณค่าที่ลูกค้าสัมผัสและรู้สึกได้จากการนำสิ่งของไปใช้งาน รวมไปถึงความสามารถในการสะท้อนแบรนด์ โดยของพรีเมี่ยมสามารถเป็นสินค้าในราคาปานกลางแต่มีคุณภาพดี พร้อมทั้งสามารถตอบโจทย์การใช้งานให้กับลูกค้าหรือผู้รับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ของพรีเมี่ยมมักจะมีแต่ของใช้
ในปัจจุบันหลาย ๆ คนยังคงเข้าใจผิดกันอยู่ว่า ของพรีเมี่ยมจะต้องเป็นของใช้ที่สามารถนำไปใช้ได้เพียงเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ของพรีเมี่ยมมีหลายประเภทด้วยกัน และไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะของใช้เพียงอย่างเดียว ซึ่งในส่วนนี้จะช่วยสร้างความประทับใจและช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์ได้เป็นอย่างดี
- ของพรีเมี่ยมจำเป็นจะต้องให้ฟรีเสมอ
หลายคนมักจะเข้าใจผิดว่า ของพรีเมี่ยมจะต้องแจกฟรีเพียงเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ของพรีเมี่ยมสามารถนำมาใช้ในกลยุทธ์การตลาดที่แตกต่างกันได้ อย่างเช่น ใช้เป็นของรางวัลในการแข่งขันต่าง ๆ ,การส่งมอบของพรีเมี่ยมให้กับลูกค้าเมื่อลูกค้าได้ทำการซื้อสินค้า,ใช้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญการตลาดที่มีเป้าหมาย เป็นต้น
- ของพรีเมี่ยมจำนวนมาก ทำให้เสียเงินมาก
หลายคนมีความกังวลใจเมื่อต้องสั่งซื้อของพรีเมี่ยมเป็นจำนวนมาก เพราะกลัวว่าจะทำให้เสี่ยงต่อการเสียเงินเป็นจำนวนมาก ๆ ไปด้วย แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น ทุกท่านสามารถวางแผนในการเลือกสั่งซื้อของพรีเมี่ยมในจำนวนที่มีความเหมาะสมได้ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในระยะยาวได้อีกด้วย
- สั่งซื้อของพรีเมี่ยมไม่จำเป็นต้องตอบโจทย์ความต้องการ
ยังคงมีหลายคนที่เลือกสั่งซื้อของพรีเมี่ยมตามความชื่นชอบหรือความนิยมในท้องตลาด โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งในส่วนนี้ทางเราขอแนะนำให้เลือกของพรีเมี่ยมที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นสำคัญ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจและแบรนด์ และยังช่วยสร้างความประทับใจได้อย่างยาวนานอีกด้วย
ของพรีเมี่ยม vs ของแจกทั่วไป ลงทุนกับอะไรดีกว่ากัน?
สำหรับคำถามที่หลาย ๆ คนเกิดความสงสัย ว่าระหว่างของพรีเมี่ยม กับ ของแจกทั่วไป ลงทุนอะไรดีกว่ากัน? ในส่วนนี้นับได้ว่าไม่มีคำตอบที่ตายตัว ทางที่ดีควรพิจารณาจากวัตถุประสงค์ของกิจกรรมทางการตลาดและกลุ่มเป้าหมายที่ธุรกิจหรือแบรนด์ต้องการอยากจะสื่อสารด้วยจะดีที่สุด
- ซึ่งถ้าหากธุรกิจมีความต้องการอยากจะยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์หรือธุรกิจให้ดูน่าเชื่อถือ มีรสนิยม, ต้องการอยากจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าหรือคู่ค้าทางธุรกิจ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับของขวัญมากกว่าของแจก ในกรณีต่าง ๆ เหล่านี้ ของพรีเมี่ยม ย่อมเป็นคำตอบที่ดีสำหรับคุณ
- ในกรณีที่ธุรกิจมีความต้องการอยากจะสร้างการรับรู้แบรนด์ และมีความต้องการอยากจะกระจายแบรนด์สู่กลุ่มคนในวงกว้าง และเน้นความรวดเร็วในการกระจายสินค้าให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก ๆ ได้ โดยเฉพาะในช่วงที่ธุรกิจหรือแบรนด์มีงบประมาณจำกัด หรือต้องการอยากจะประหยัดต้นทุนในกิจกรรมที่ต้องการแจกของขนาดใหญ่ ๆ สำหรับในกรณีต่าง ๆ เหล่านี้ การมอบ ของแจกทั่วไป นับได้ว่าเป็นเครื่องมือที่ดีและมีประสิทธิภาพไม่ใช่น้อย
สรุป
จะเห็นได้ว่า ของพรีเมี่ยมและของแจกทั่วไปนั้น ต่างก็ข้อดี-ข้อเสีย รวมไปถึงมีบทบาทที่แตกต่างกันออกไป โดยธุรกิจสามารถเลือกใช้สองสิ่งนี้ควบคู่กันได้อย่างมีกลยุทธ์ ซึ่งจะช่วยสร้างผลลัพธ์ทางการตลาดที่ดียิ่งขึ้น สิ่งสำคัญก็คือ ธุรกิจควรวางแผนการตลาดอย่างชัดเจน พร้อมทั้งเข้าใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและภาพลักษณ์ที่ธุรกิจต้องการอยากจะสื่อสาร การเลือกส่งมอบสิ่งของให้มีความเหมาะสมในแต่ละช่วงโอกาส จะยิ่งช่วยสร้างความประทับใจให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และยังช่วยสร้างการจดจำแบรนด์หรือธุรกิจได้แบบระยะยาวอีกด้วย
Comentarios